สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
ทองคำปิดตลาดปรัตัวขึ้นเล็กน้อย ได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างไรก็ตามราคายังไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้มากนัเนื่องจากว่าทองคำยังคงมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานราคาลงอีกรอบ แนะปิดสถานะทำกำไร
Date | 22 กุมภาพันธ์ 2021 |
Commodity | Gold |
Buy/Sell | รอขาย |
Entry | จุดขาย 1,799 |
Target | 1,772 |
Stoploss | 1,815 |
Level | แนวรับ (Support) |
แนวต้าน (Resistance) |
L1 | 1,772 | 1,799 |
L2 | 1,767 | 1,806 |
L3 | 1,762 | 1,811 |
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (19 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินเสี่ยงอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
มุมมองทองคำภาคบ่าย ทองคำดีดตัวขึ้นเล็กน้อยลักษณะรีบาวน์ระยะสั้น ดีดตัวขึ้นโดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าหลังเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
และนอกจากนี้เฟดยังระบุด้วยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงสร้างความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ รวมทั้งความยากลำบากในการผลิตและการแจกจ่ายวัคซีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเฟด ชิคาโก ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ดัชนีภาคการผลิตเฟด ดัลลาส ดัชนีราคาบ้านในเขต 20 เมืองใหญ่ ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิตสาขาริชมอนด์ ยอดขายบ้านใหม่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ประมาณการ GDP ไตรมาสสี่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย
ดุลการค้า รายได้ส่วนบุคคล รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล สินค้าคงคลังภาคค้าส่ง ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง เฟด ชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (19 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินเสี่ยงอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
รัฐบาลจีนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อสานสัมพันธ์อันดีกับจีน รวมถึงยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าและยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร โดยจีนคาดหวังให้รัฐบาลสหรัฐเป็นฝ่ายฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันระหว่างทั้งสองประเทศ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีนได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐบาลจีนในวันนี้ว่า สหรัฐและจีนควรกลับมาหันหน้าเจรจากันในด้านที่ได้มีการห่างหายไปในช่วงการบริหารของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงเรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินนโยบายบางส่วนของรัฐบาลบริหารชุดก่อนหน้านี้ โดยนายหวังเน้นย้ำว่า สหรัฐจำเป็นต้องยกเลิกภาษีในส่วนที่ไม่สมเหตุสมผล และระบุว่ามาตรการจำกัดการทำงานของสื่อจีนและการยกเลิกวีซ่าของนักศึกษาชาวจีนนั้นเป็นอีกประเด็นที่น่ากังวล
แถลงการณ์จากฝั่งรัฐบาลจีนครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นการกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปธน.โจ ไบเดนและปธน.สี จิ้นผิงได้พูดคุยหารือกันผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะมีความต้องการตรงกันในเรื่องการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มั่นคงขึ้น แต่ปธน.ไบเดนได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้แล้วว่า สหรัฐต้องการจะดำเนินนโยบายเกี่ยวกับจีนหลายๆข้อไปในทิศทางเดียวกันกับอดีตปธน.ทรัมป์
หนังสือพิมพ์อีฟนิง สแตนดาร์ดรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมประกาศแผนยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในวันนี้เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 02.00 น. ของวันอังคารตามเวลาไทย รายงานระบุว่า นายจอห์นสันมีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันที่ 8 มี.ค. ขณะที่ประชาชนจะสามารถกลับมาพบปะกันในกลุ่มเล็กๆ หรือทำกิจกรรมนอกบ้านได้
ส่วนหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษอาจมีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมในวันที่ 29 มี.ค. โดยจะอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวได้ถึง 6 ราย หรือ 2 ครัวเรือน ขณะที่ร้านค้าปลีกส่วนหนึ่งจะกลับมาเปิดทำการได้ก่อนสิ้นเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ปัจจุบัน อังกฤษอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่คล้ายกันในสก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ
"กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ" แถลงประณามใช้ความรุนแรงผู้ประท้วง "เมียนมา" จนมีผู้เสียชีวิตในการชุมนุมต้านรัฐประหาร นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า สหรัฐรู้สึกเศร้าใจเมื่อทราบรายงานว่า มีผู้ประท้วงต้านรัฐประหารเมียนมาเสียชีวิต และสหรัฐขอประณามการใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มผู้ประท้วงดังกล่าว มีรายงานว่า มะ มยะ ต้วย ต้วย ไข่ ผู้ชุมนุมประท้วงหญิงชาวเมียนมาที่ถูกยิงที่ศีรษะโดยตำรวจในการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสียชีวิตในวานนี้ (19 ก.พ.) ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกหลังเกิดรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนโดยกองทัพ จนทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของ มะ มยะ ต้วย ต้วย ไข่ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้บรรดาผู้ชุมนุมประท้วงฮึดสู้และเดินหน้ากดดันกองทัพต่อไป
วันที่ | ประเทศ | เวลา | รายการ | มีผลต่อทอง | ประมาณการณ์ | ตัวเลขครั้งก่อน |
---|---|---|---|---|---|---|
22 ก.พ 64 | EUR | 16.00 | ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ เยอรมันนี Ifo | 90.4 | 90.1 | |
USA | 20.30 | ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเฟด ชิคาโก | 0.40 | 0.52 | ||
USA | 22.00 | ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเฟด ชิคาโก | 0.3% | 0.3% | ||
USA | 22.30 | ดัชนีภาคการผลิตเฟด ดัลลาส | 6.7 | 7.0 | ||
23 ก.พ 64 | EUR | 17.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค ยูโรโซน | 0.2 % | 0.3 % | |
USA | 21.00 | ดัชนีราคาบ้านในเขต 20 เมืองใหญ่ | 0.9% | 1.4% | ||
USA | 21.00 | ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย | 0.8 % | 1.0% | ||
USA | 22.00 | ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค | 89.7 | 89.3 | ||
USA | 22.00 | ดัชนีภาคการผลิตสาขาริชมอนด์ | 14 | 14 | ||
24 ก.พ 64 | EUR | 14.00 | GDP ไตรมาสสี่ | 0.1 % | 8.5% | |
USA | 22.00 | ยอดขายบ้านใหม่ | 855K | 842K | ||
25 ก.พ 64 | EUR | 14.00 | ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี | -14.0 | -15.6 | |
EUR | 17.00 | ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ | 92.3 | 91.5 | ||
EUR | 17.00 | ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | -14.8 | -15.5 | ||
USA | 20.30 | คำสั่งซื้อสินค้าคงทน | 1.1% | 0.2% | ||
USA | 20.30 | ประมาณการ GDP ไตรมาสสี่ | 4.1% | 4.0% | ||
USA | 20.30 | จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน | 815 K | 861 K | ||
USA | 22.00 | ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย | 0.0% | -0.3% | ||
26 ก.พ 64 | USA | 20.30 | ดุลการค้า | -83.0B | -82.5B | |
USA | 20.30 | รายได้ส่วนบุคคล | 9.4% | 0.6% | ||
USA | 20.30 | รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล | 2.2% | -0.2% | ||
USA | 20.30 | ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล | 0.3% | 0.4% | ||
USA | 20.30 | ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล พื้นฐาน | 0.1% | 0.3% | ||
USA | 20.30 | สินค้าคงคลังภาคค้าส่ง | 0.3% | 0.1% | ||
USA | 21.45 | ดัชนีจัดซื้อจัดจ้าง เฟด ชิคาโก | 61.0 | 63.8 | ||
USA | 22.00 | ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน | 76.4 | 76.2 |
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.