สนใจเทรดออนไลน์

สมัครเทรดออนไลน์

ราคาทองคำนิวยอร์กเจอ Death Cross ส่อเค้าเข้าสู่ช่วงขาลงระยะยาว

สถานการณ์ในตลาดทองคำนิวยอร์กถูกจับตาอีกครั้ง หลังจากราคาทองคำร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 4 วันทำการ โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ราคาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 26.2 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ระดับ 1,772.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563

 

ข้อมูลจาก Dow Jones Market Data ระบุว่า ราคาทองคำเมื่อคืนนี้บ่งชี้ว่า ตลาดทองคำนิวยอร์กได้เผชิญกับภาวะ Death Cross เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2561 โดยเส้นค่าเฉลี่ยทางเทคนิคระยะสั้นตัดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ซึ่งเมื่อคืนนี้ ราคาเฉลี่ยในรอบ 50 วันของสัญญาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,856.46 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในรอบ 200 วันที่ระดับ 1,857.67 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ทั้งนี้ เมื่อตลาดทองคำเกิดภาวะ Death Cross ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ราคาทองคำกำลังจะเข้าสู่ภาวะขาลงในระยะยาว

 

เจสัน ทีด นักวิเคราะห์จาก Gold Bullion Strategy Fund กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ราคาทองคำร่วงลงติดต่อกันหลายวันนั้น มาจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 1.33% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563

 

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ขณะเดียวกันการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะดึงดูดให้นักลงทุนหันเข้าซื้อพันธบัตร แต่จะเทขายทองในการปรับพอร์ตการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย

 

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดทองคำเช่นกัน เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ

 

ไคลิน เบิร์ช นักวิเคราะห์จาก The Economist Intelligence Unit คาดการณ์ว่า ราคาทองมีแนวโน้มทรุดตัวลงสู่ระดับ 1,775 ดอลลาร์/ออนซ์ในไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย และจากนั้นราคาทองจะดิ่งลงสู่ระดับ 1,750 ดอลลาร์/ออนซ์ในไตรมาส 4 แต่หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหยุดชะงักลง ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นอีกครั้ง

 

สำหรับภาวะ Death Cross ครั้งหลังสุดในตลาดทองคำนิวยอร์กนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2561 ขณะที่ภาวะ Golden Cross ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาทองคำได้เข้าสู่ช่วงขาขึ้นในระยะยาว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9


ข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง
เฟดยังกังวลเงินเฟ้อ อาจต้องตรึงดอกเบี้ยสูงต่อไปนานกว่าคาด
รายงานตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดที่เร่งตัวขึ้นแตะจุดสูงสุด 6 เดือนที่ระดับ 3.4% ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
อัพเดท: 11 เม.ย. 2567
จับตา CPI คืนนี้ ทองจะพุ่งต่อหรือย่อลงมาเอาแรงก่อน?
นักลงทุนรอรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในคืนนี้ เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่อการใช้นโยบายการเงินของเฟด โดยเงินเฟ้อในรอบนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่เฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
อัพเดท: 10 เม.ย. 2567
Jamie Dimon เตือนดอกเบี้ยเฟดอาจแตะ 8% ในไม่กี่ปีข้างหน้า
เจมี ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan Chase เตือนว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลที่มากเกินไปในสหรัฐฯ อาจยังคงกระตุ้นให้เกิดอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
อัพเดท: 9 เม.ย. 2567
ทองคำไปต่อแบบไม่พักขานรับสุนทรพจน์พาวเวล
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ $2304 หลังจากที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ย้ำว่าข้อมูลตำแหน่งงานล่าสุดและอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดไม่ได้เปลี่ยนแปลงภาพรวมของนโยบายเศรษฐกิจในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ
อัพเดท: 5 เม.ย. 2567
  • gcap gold facebook
  • gcap gold youtube
  • gcap gold line
  • gcap gold line