สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
ทองคำร่วงลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯได้หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ได้กดดันราคาทองคำราคาทองคำ อย่างไรก็ดีราคาได้ปรับตัวลงมากแล้ว นักลงทุนอาจทะยอยเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ได้
Date | 02 March 2021 |
Commodity | Gold |
Buy/Sell | รอซื้อ |
Entry | จุดซื้อ1,706 |
Target | 1,748 |
Stoploss | 1,750 |
Level | แนวรับ (Support) |
แนวต้าน (Resistance) |
L1 | 1,706 | 1,748 |
L2 | 1,700 | 1,753 |
L3 | 1,695 | 1,759 |
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) ขานรับความข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ดอลลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ในขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผย ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561
นอกจากนี้ การที่สหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และความคืบหน้าในการออกมาตรการเศรษฐกิจ ยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
มุมมองทองคำภาคเช้า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากข่าวสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน รวมทั้งการอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำด้วย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) ขานรับความข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ดอลลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ในขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผย ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561
นอกจากนี้ การที่สหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และความคืบหน้าในการออกมาตรการเศรษฐกิจ ยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.521 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2545 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.8% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนม.ค.
การใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนธ.ค. การใช้จ่ายในโครงการที่อยู่อาศัยของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนธ.ค. ส่วนการใช้จ่ายในโครงการที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนการใช้จ่ายในโครงการภาคสาธารณะเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนม.ค. ขณะที่การใช้จ่ายในโครงการของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 6.8% ส่วนการใช้จ่ายในโครงการของรัฐบาลในมลรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 1.3%
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 58.6 ในเดือนก.พ. จากระดับ 59.2 ในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ แม้ดัชนี PMI ปรับตัวลงในเดือนก.พ. แต่ยังคงแตะระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากคาดการณ์ที่ว่าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในวงกว้างจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2561 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 58.9 จากระดับ 58.7 ในเดือนม.ค. ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว ดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.พ.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2562
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี จากระดับ 54.8 ในเดือนม.ค. ดัชนี PMI ยังคงปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกัน 8 เดือน
ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ส่วนการจ้างงานเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการคาดการณ์ที่ว่าความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้างจะช่วยควบคุมการแพร่ระบาด และหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน ยังได้ปัจจัยบวกจากภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี
วันที่ | ประเทศ | เวลา | รายการ | มีผลต่อทอง | ประมาณการณ์ | ตัวเลขครั้งก่อน |
---|---|---|---|---|---|---|
01 มี.ค 64 | EUR | 15.55 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต เยอรมันนี | 60.6 | 60.6 | |
EUR | 16.00 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ยูโรโซน | 57.7 | 54.8 | ||
EUR | 20.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค เยอรมันนี | 0.5 % | 0.8 % | ||
USA | 21.45 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต | - | 58.5 | ||
USA | 22.00 | ดัชนีภาคการผลิต สถาบัน ISM | 58.8 | 58.7 | ||
02 มี.ค 64 | EUR | 14.00 | ยอดค้าปลีก เยอรมันนี | -1.0% | -9.6% | |
EUR | 15.55 | อัตราการว่างงาน | 6.0% | 6.0% | ||
EUR | 17.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค | 1.0% | 0.9% | ||
03 มี.ค 64 | EUR | 15.55 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ เยอรมันนี | 45.9 | 46.7 | |
EUR | 16.00 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ | 44.7 | 45.4 | ||
EUR | 17.00 | ดัชนีราคาผู้ผลิต | 1.0% | 0.8% | ||
USA | 20.15 | การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ADP | 165 K | 174 K | ||
USA | 21.45 | 58.9 | 58.3 | |||
USA | 22.00 | ดัชนีภาคการบริการ | 58.7 | 58.7 | ||
USA | 22.00 | ดัชนีภาคการบริการ | 58.7 | 58.7 | ||
04 มี.ค 64 | EUR | 17.00 | ยอดค้าปลีก ยูโรโซน | -1.1% | 2.0% | |
EUR | 17.00 | อัตราการว่างงาน | 8.3% | 8.3% | ||
USA | 20.30 | จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน | 790 K | 730 K | ||
USA | 20.30 | ผลผลิตนอกภาคการเกษตร | -4.7 % | -4.8 % | ||
USA | 20.30 | ต้นทุนค่าจ้างแรงงานต่อหน่วย | 6.7 % | 6.8 % | ||
USA | 22.00 | คำสั่งซื้อสินค้าโรงงาน | 1.4% | 1.1% | ||
05 มี.ค 64 | EUR | 14.00 | คำสั่งซื้อโรงงาน | 0.8% | -1.9% | |
USA | 20.30 | การจ้างงานนอกภาคการเกษตร | 140 K | 49 K | ||
USA | 20.30 | อัตราการว่างงาน | 6.3% | 6.3% | ||
USA | 20.30 | รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน | 0.2% | 0.2% | ||
USA | 20.30 | ดุลการค้า | -67.5 B | -66.6 B |
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.