สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
วิธีที่ 1 ใช้กองทุนรวมเป็นที่พักเงินแทนบัญชีออมทรัพย์
การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ ลองพิจารณาขยับขยายเงินไปไว้ในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีสภาพคล่องสูง เช่น กองทุนพันธบัตรระยะสั้น และกองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่ง เกณฑ์การเลือกกองทุน คือ ให้หากองทุนที่มีนโยบายรักษาเงินต้น โดยอาจให้ผลตอบแทนประมาณ 0.7-1.5% ต่อปี* มาพิจารณาเลือกกองทุน ซึ่งการลงทุนกับกองทุนรวมนับว่าให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยประมาณ 0.5% ต่อปี รวมถึงพิจารณาในส่วนของสภาพคล่อง มีหลายกองทุนที่โอนเงินค่าขายหน่วยลงทุนในวันที่ T+1 คือ ขายกองทุนวันนี้ เงินเข้าบัญชีในวันรุ่งขึ้น ซึ่งนับว่ามีสภาพคล่องสูง
วิธีที่ 2 เพิ่มโอกาสการลงทุนด้วยกองทุนรวม
ข้อดีของกองทุนรวม คือ เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ด้วยเงินทุนจำนวนไม่สูงนัก เช่น กองพักเงิน ที่ลงทุนในตราสารหนี้ หรือเงินฝาก เริ่มต้นที่ 1,000 บาท หรือจะเลือกลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป โดยผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายดังกล่าว ซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และความรู้ ความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการกองทุนรวมให้ได้ผลตอบแทนสูง ทำให้เราสามารถลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป จากการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป มูลค่าการซื้อขั้นต่ำที่ 2,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้น จังหวะเวลาในการเข้าซื้อกองทุนและอัตราแลกเปลี่ยนก็มีผลต่อกำไรที่เราจะได้รับเช่นกัน
วิธีที่ 3 ซื้อกองทุนรวมประเภทมีเงินปันผล
หลาย ๆ กองทุนเน้นนโยบายการจ่ายเงินปันผลโดยผลกำไรที่กองทุนทำได้ในระหว่างปีจะถูกจัดสรรและจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นอัตราร้อยละตามที่กำหนดไว้ในนโยบายกองทุน ในระหว่างการถือครองหน่วยลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผล รวมทั้งในกรณีที่ขายคืนหน่วยลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างของมูลค่าหน่วยลงทุนหากหน่วยลงทุนมีมูลค่าสูงขึ้น ดังนั้น การคำนวณผลตอบแทนที่ได้รับจากกองทุนรวมที่เน้นการจ่ายปันผล นอกจากจะพิจารณาถึงมูลค่าหน่วยลงทุนแล้ว ยังควรนำเงินปันผลที่ได้รับในระหว่างปีมาคำนวณด้วย กองทุนที่เน้นจ่ายปันผลเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ชอบซื้อขาย ไม่อยากติดตามราคาขึ้นลงของหน่วยลงทุนมากนัก เพียงแค่ซื้อแล้วถือรับปันผลไปเรื่อย ๆ
อีกหนึ่งผลประโยชน์จากกองทุนรวม กำไรส่วนต่างที่ได้จากการขายกองทุนนั้นไม่ต้องเสียภาษี ยกเว้นส่วนของเงินปันผลที่ต้องเสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย 10%
วิธีที่ 4 รับประโยชน์ทางภาษีผ่านการลงทุนในกองทุน LTF/ RMF
สำหรับใครที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund: LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) เป็นการสร้างกำไรสองต่อ ต่อแรก คือ การนำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีในปีที่มีการลงทุน ต่อที่สอง คือ ส่วนต่างของมูลค่าหน่วยลงทุนของราคาในวันที่ขายกับราคาซื้อ ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ทั้งกำไรและขาดทุน หากผู้ลงทุนต้องการรับผลประโยชน์ทางภาษี จะต้องทำตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสรรพากรในด้านระยะเวลาการถือครอง โดยกองทุน LTF นั้น ผู้ลงทุนจะไถ่ถอนได้เมื่อถือหน่วยลงทุนครบ 7 ปีปฏิทิน ส่วนกองทุน RMF จะไถ่ถอนได้เมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์และมีการลงทุนมาไม่น้อยกว่า 5 ปี ก่อนขายคืน
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/four-ways-to-generate-income-from-the-fund.html
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.